กรกฎาคม 27, 2024

รายการบอลวันนี้.com

https://รายการบอลวันนี้.com

ผู้ฝึกสอนของ บอล จักรพันธ์ เกิดที่จังหวัดหนองคาย แจ้งเกิดได้อย่างสวยงาม

1 min read
ผู้ฝึกสอนของ

ผู้ฝึกสอนของ จักรพันธ์เขามีชื่อเล่นว่า “บอล” ราวกับครอบครัวจะทราบดีว่า นี่เป็นชื่อเล่นที่เหมาะสมกับเจ้าตัวที่สุดแล้ว

ผู้ฝึกสอนของ บอล เรียนที่โรงเรียนสำหรับสอนเด็กอนุบาลศรีวิไล จนกระทั่ง ป.2 ก่อนย้ายมาเรียนที่สถานศึกษาชุมชนบ้านโคกอุดม ที่ อำเภอพรเจริญ จังหวัดจังหวัดหนองคาย ในยุคนั้น ตั้งแต่ ป.3 ถึง ป.6 เนื่องจากว่าพ่อย้ายมาทำงานที่อำเภอที่นี้ ก่อนที่จะย้ายสถานศึกษาอีกทีในชั้น มัธยม1 ไปที่โรงเรียนพรเจริญวิทยา

ซึ่งเป็นโรงเรียนกินนอนอำเภอแล้วก็ที่ที่นี้ทำให้ “จักรพันธ์ พรใสแจ้งเกิด และก็แปลงเป็นความมุ่งมาดของอำเภอ เนื่องจากว่า “เจ้าบอล” เล่นบอลเดินสายตั้งแต่ มัธยม1 ในรุ่นประชาชนทั่วๆไป เอาง่ายๆเป็น ในวัย 13 ปี เขาตะลุยบอลระดับคนแก่แล้ว แล้วเพียงพอจบ มัธยม3 เขาได้ย้ายกลับไปเรียนที่อำเภอศรีวิไล ด้วยความใกล้ชิดกับทีมเดินสาย แล้วก็มีความผูกพันกับตรงนั้น https://xn--12c2cac2bfcrs2d4bec4c8t.com

ผู้ฝึกสอนของในชั้น ม.ปลาย จักรพันธ์ได้โอกาสลงเล่นหลายรายการ แต่ว่าโดยมากกลุ่มสถานที่เรียนของเขาจะไปไม่ถึงดวงดาว เนื่องจากว่าจะแพ้กลุ่มโรงเรียนกินนอนจังหวัด นั่นเป็น สถานที่เรียนปทุมเทพวิทยาคาร แต่ด้วยฟอร์มส่วนตัวดี ก็เลยสบโอกาสย้ายไปเล่นให้กับโรงเรียนปทุมเทพวิทยาคาร ที่ราวกับเป็นกลุ่มผู้แทนของจังหวัดในรายการระดับประเทศ

แม้กระนั้นด้วยความเป็นกลุ่มสถานที่เรียนไม่ดังมากมายในเรื่องของบอล ทำให้เขาพ่ายแพ้อยู่ร่ำไป โดยรายการไพร์มินิสเตอร์ รอบประเทศ ภายหลังพาทีมโรงเรียนกินนอนจังหวัดหนองคายได้แชมป์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กลุ่มโรงเรียนของ “เจ้าบอล” จับฉลากมาอยู่ร่วมสายกับ อัสสัมชัญ จังหวัดธนบุรี

และก็อะคาเดมีของ จังหวัดชลบุรี เอฟซี ผลก็คือ พวกเขาแพ้ อัสสัมชัญ จังหวัดธนบุรี 1-6 และก็แพ้ จังหวัดชลบุรี 1-10 ซึ่งความปราชัยครั้งนั้นทำให้จักรพันธ์ ฉุกคิดขึ้นมาว่า เขาบางครั้งอาจจะเหมาะสมกับการเรียนมากยิ่งกว่า ซึ่งเกรดของเขาเข้าขั้นที่ดีเลิศ เพราะเหตุว่าได้อันดับที่ 5 ของสถานศึกษาในสายวิทย์-คณิต จนได้โควตาเรียนที่ มัธยมเทคโนโลยีพระจอมเกล้าจังหวัดธนบุรี ในคณะครุศาสตร์ สาขาวิศวกรรมที่เกี่ยวข้องกับเครื่องกล

ชีวิตของ “บอล” ในรั้วมหาวิทยาลัย แม้กระนั้นเขาก็ยังตกหลุมรักกลิ่นสาบลูกหนังอยู่เป็นประจำ

โดยนอกเหนือจากการที่จะเล่นให้กลุ่มมหาวิทยาลัย แล้วก็กลับไปอยู่บ้านมาเล่นเดินสายบ้างแล้ว ก็ยังติดตามมองไทยลีกเกือบทุกเสาร์-อาทิตย์ รวมทั้งถูกใจเดินไปข้างหลังสนามศุภชลาศัย เพื่อมองรองเท้าสตั๊ดคู่งามๆโดยหวังว่าสักวันนึงเขาจะได้โอกาสเล่นบอลไทยลีกด้วยรองเท้าระดับท็อปอย่างงี้บ้าง

ไม่เพียงแค่นั้น เขายังมีความต้องการยิ่งใหญ่ว่า วันใดวันหนึ่งจำเป็นที่จะต้องติดกลุ่มชาติไทยให้ได้ โดยเจ้าบอลได้สร้างแรงผลักดันให้กับตนเอง ด้วยการตามเชียร์กลุ่มชาติไทยดูเหมือนจะทุกนัดหมาย ซึ่งทัวร์นาเมนต์ ชิงชนะเลิศอาเซียน ปี 2007 รอบชิงแชมป์ เขาเดินทางไปเชียร์กลุ่มชาติไทยผู้เดียว และก็ได้รอคอยลายเซ็นพี่ๆนักฟุตบอลกลุ่มชาติ

โดยหวังว่าวันใดวันหนึ่งจะได้ติดกลุ่มชาติอย่างพวกเขาบ้าง หลังจากนั้นในวัย 19 ปี “เจ้าบอล” ก็เริ่มคัดเลือกตัวกับกลุ่มต่างๆดังเช่น ราชวิถี, องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย แต่ว่าก็ไม่ติด จนถึงได้โอกาสมาคัดเลือกตัวที่สมาคมตำรวจ เพราะว่ามีนายตำรวจท่านหนึ่งที่อำเภอพรเจริญ มองเห็นแววของจักรพันธ์

ตอนที่กลับมาเล่นเดินสาย ก็เลยได้ติดต่อกับ ชัยยงค์ ขำเปี่ยม อดีตผู้เฝ้าประตูกลุ่มชาติไทยที่เป็นเพื่อนกัน ซึ่งเวลานี้เป็นผู้จัดการทีมของชมรมตำรวจอยู่ เพื่อให้จักรพันธ์ มาทดลองฝีเท้า ปี 2007 ชมรมตำรวจ เพิ่งจะเลื่อนชั้นจากดิวิชั่น 1 ทำให้จักรพันธ์ ได้โอกาสเข้ามาเป็นผู้เล่นสำรอง แต่ว่าด้วยวัยเพียงแต่ 19-20 ปี

เขามิได้ถูกส่งชื่อเลย กระทั่งชื่อตัวสำรองก็ไม่มี ในตอนครั้งแรกๆจนถึงวันนึงในเกมฝึกซ้อมกับ จังหวัดสมุทรสงคราม เอฟซี เขาทำผลงานได้ดิบได้ดีมากมาย จนกระทั่งถูกใส่ชื่อฐานะผู้เล่นสำรองเกมไทยลีกที่จะเจอกับ พนักงานยาสูบ ในสุดสัปดาห์ถัดมา เกมกับ ยาสูบ นัดหมายดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วเล่นไปได้ราว 40 นาที

ผู้ฝึกสอนของสายฟ้า เพชรแจ่มแจ้ง ได้รับบาดเจ็บจนต้องสลับตัว ซึ่งผู้ที่ถูกสลับตัวลงสู่สนามในเกมวันนั้นก็คือ “จักรพันธ์ 

แต่ว่าด้วยความระทึกใจ ลุกลนกระทั่งทำอะไรผิด วันนั้นเขาเล่นได้ไม่ดีนัก แถมยังลืมล็อกข้อเท้าจนถึงกระตุ้นให้เกิดการบาดเจ็บ รวมทั้งถูกแปลงออกในช่วงหลัง แล้วช่องทางการลงไปในสนามของจักรพันธ์ ลดน้อยลงไปอีก เพราะว่าสมาพันธ์ตำรวจดึงตัวสามดาวรุ่งอย่าง ศักรินทร์ จันทร์โยธา, รณชัย รังสิโย, ณธฤษภ์ ธรรมรสงาม เข้ามาช่วยกลุ่ม

ทำให้ชื่อของจักรพันธ์จำเป็นต้องถูกถอดออกมาจากกลุ่มในเลกลำดับที่สองของปี 2007 ขณะนั้นเขาเลยเลือกที่จะเรียนสิ่งเดียว เนื่องจากว่าพึ่งจะย้ายมาเรียนที่ มัธยมศรีปทุม ซึ่งอนาคตด้านบอลพูดได้ว่า “เคว้งมากๆ” ปี 2007 ชมรมตำรวจ ตกชั้นสู่ลีกดิวิชั่น 1 แล้วก็ปีถัดมา “ผู้ฝึกสอนต้อม” วราศักดิ์ อุปถัมภ์นรากร

ผู้ฝึกสอนของ มัธยมศรีปทุม ได้งานที่สมาพันธ์การบินไทย ในศึกดิวิชั่น 1 ก็เลยได้เชิญจักรพันธ์ มาร่วมทีม รวมทั้งนั่นก็ทำให้เขาได้กลับสู่วิถีโคจรนักฟุตบอลอาชีพอีกที แล้วก็ในเกมท้ายที่สุดของศึกดิวิชั่น 1 ปีนั้นจักรพันธ์ พรใสได้ลงสู่สนามให้กับ การบินไทย เจอกับ สมาคมตำรวจ ที่กำลังลุ้นเลื่อนชั้น

ผลที่ตามมา การบินไทย ที่หนีตกชั้นในเกมนัดท้ายที่สุด กระหน่ำสมาคมตำรวจถึง 4-1 แล้วจักรพันธ์ พรใสก็ทำประตูกลุ่มเก่าได้ ต่อหน้าของ “ชัยยงค์ ขำเปี่ยม” ที่กลับมาคุมกลุ่มตำรวจอีกที ซึ่งโน่นก็ทำให้จักรพันธ์ ถูกดึงตัวมาร่วมทีมตำรวจอีกรอบในปี 2009 แล้วก็โน่นเป็นปีแจ้งกำเนิดสุดๆของจักรพันธ์พรใส”

You may have missed